บุญฮดสรง หรือ บุญสงกรานต์ จัดให้มีในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนห้า ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยมาตั้งแต่โบราณ ในวันขึ้นปีใหม่ของไทยมาแต่โบราณ ในวันนี้พระสงฆ์ นําพระพุทธรูปออกจากโบสถืมาไว้ที่หอสรง ตอนบ่าย ชาวบ้านจะนําน้ำอบ น้ำหอม มาร่วมกันสรงน้ำพระพุทธรูปที่หอสรงนี้ จากนั้น ก็ออกไปเก็บดอกไม้มาจัดประกวดประชันในการบูชาพระ ระหว่างนี้ชาวบ้านจะพากันเล่นแคน ฉิ่งฉาบ เพื่อความสนุกสนานรดน้ำดําหัวญาติผู้ใหญ่ และเล่นสาดน้ำกัน โดยชาวบ้านอาจเล่นสนุกสนานถึง 15 วัน
มูลเหตุของพิธีกรรม
เนื่องจากเดือนนี้ถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่มาแต่โบราณ โดยจะถือเอาวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 เป็นวันเริ่ม ต้นการทําบุญพิธีกรรม เมื่อถึงวันเพ็ญเดือนห้าเวลา บ่ายสามโมง ถือว่า “เป็นมื้อเอาพระลง” หมายถึงการนําเอา พระพุทธรูปทั้งหมดในวัดมาทําความสะอาดแล้วนํามาตั้งรวมไว้ที่กลางศาลาโรงเรือน หรือ “หอแจก” พิธีเริ่มจากผู้เป็นประธานนําดอกไม้ธูปเทียนเครื่องสักการะพระพุทธรูป แล้วนํากล่าวบูชาพระรัตนตรัย อาราธนาศีล พระสงฆ์ให้ศีลญาติโยม รับศีลแล้วผู้เป็นประ ธานอาราธนาพระปริตรพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จบแล้วญาติโยมก็เอาน้ำอบน้ำหอมสรงพระพุทธรูป จากนั้นหนุ่มสาวก็จะพากัน หาบน้ำจากบ่อหรือหนอง บึง ไปเทไว้ใน โอ่งของวัดให้พระภิกษุ สามเณรได้ใช้อาบขณะเดียวกันก็จะเริ่มเล่นสาดน้ำกันและกันเป็นที่สนุกสนานตอนค่ำ นิมนต์พระสงฆ์มาสวดไชยมงคล (มงคลสูตร) ที่ผามไชย์กลางหมู่บ้าน รุ่งเช้า (วันแรมหนึ่งค่ำ) เป็น “มื้อเนา” ถือเป้นวันขึ้นปีใหม่ มีการทําบุญให้ทาน โดยนําข้าวปลาอาหารมาถวายพระที่ผามไชย์การสวดไชยมงคล (มงคลสูตร) นี้ต้องสวดให้ครบ 7 คืน โดยมีบาตรใส่น้ำมนต์ไว้ 7 ใบพร้อมทั้งมีถังใส่ กรวดทรายไว้จํานวนหนึ่ง เมื่อครบ 7 คืนแล้ว พระสงฆ์จะเดินสวด ไชยมงคลไปรอบหมู่บ้าน พร้อมกับสาดน้ำมนต์ ส่วนญาติโยมจะหว่านกรวดทรายไป พร้อมๆ กัน ถือว่าเป็นการขับไล่สิ่งอัปมงคล และเสนียดจัญไรออกไปจากหมู่บ้านทําให้คนทั้งหมู่บ้าน ประสบแต่ ความสุขความเจริญในปีใหม่ที่จะมาถึง คนอีสานเรียกวันสงกรานต์ ดังนี้ คือ วันที่ 13 เมษายน เรียกว่า วันสังขารล่วง วันที่ 14 วันเนา และ วันที่ 15 เรียกว่า วันสังขารขึ้น
ที่มา http://cac.kku.ac.th/heet12_kong14/hodsong.html